วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

น้ำมันปลาบำรุงสมองได้จริงหรือไม่

 


น้ำมันปลามีสารสำคัญ 2 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ คือ EPA DHA เป็นกรดไขมันโอเมก้า-3 การบริโภคอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ทำให้ดวงตาทำงานได้ดี และลดการอักเสบที่ไม่รุนแรงของข้อต่อและลดอาการของโรคข้ออักเสบชนิดไม่รุนแรง นอกจากนี้ ยังช่วยรักษาสมดุลไขมันในเลือด เสริมสุขภาพสมอง และการทำงานของสมองด้วย

การได้รับ ดีเอชเอ โอเมก้า-3 อย่างเพียงพอในระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาสมอง ระบบประสาท และสายตาของทารกให้เป็นปกติ

ร่างกายเราผลิตโอเมก้า-3 ไม่ได้ มันจึงต้องมาจากอาหารที่เรากิน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปลา หากคุณรับประทานปลาไม่ได้ถึง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ อาหารเสริมน้ำมันปลาก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งของโอเมก้า-3 ที่คุณรับประทานเสริมได้

กรดไขมัน EPA มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันหลอดเลือด ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุในการเกิดโรคหัวใจและสมองอุดตัน นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์ได้เช่นกัน

กรดไขมัน DHA มีบทบาทที่สำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาสมองและสายตา ช่วยเสริมสร้างและป้องกันความเสื่อมของสมอง การเรียนรู้ และความจำ รวมถึงระบบสายตา ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่นี่มาดูข้อควรระวังในการบริโภคน้ำมันปลากันบ้าง

1.      ผู้ทานน้ำมันปลาเป็นประจำอาจจะมีความเสี่ยงของการมีเลือดออกมากขึ้น เพราะสารโอเมก้า-3 จะผลทำให้การเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดลดลง ผลคือเลือดจะหยุดไหลช้าลง ดังนั้นควรงดทานน้ำมันปลาก่อนรับการผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

2.      หากมีอาการแพ้อาหารทะเลอยู่แล้ว การบริโภคน้ำมันปลาอาจทำให้การอาการแพ้ได้

3.      หากเป็นคนที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้ว อาจจะต้องระมัดระวังในการทานน้ำมันปลา เพราะน้ำมันปลามีคุณสมบัติลดความดันโลหิตอยู่แล้ว

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือการได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3 จากการรับประทานอาหารโดยตรง เช่น เนื้อปลา น้ำมันรำข้าว เมล็ดแฟกซ์ เพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากสารอาหารอื่นๆในอาหารเองอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น