6 อาหารเกาหลียอดนิยม ที่คุณไม่ควรพลาด

 

พิบิมบับ

               หรือข้าวยำเกาหลี เป็นอาหารเกาหลีประเภทข้าวชนิดหนึ่งที่มีจุดเด่นคือการนำข้าวสวย ผักปรุงรส ไข่ และซอสเผ็ดของเกาหลี มาคลุกผสมกัน ข้าวยำเกาหลี เป็นอาหารที่ชาวเกาหลีทานกันเป็นประจำ เพราะเป็นเมนูที่ทำง่าย ไม่ยุ่งยาก นิยมเสิร์ฟในหม้อหินร้อนๆ เวลาจะกินต้องคลุกให้ไข่สดและเครื่องต่างๆเข้ากัน ซึ่งก็เป็นวิธีที่ชาวเกาหลีใช้ในการกินข้าวมาอย่างยาวนาน

               ส่วนประกอบของพิบิมบับแบ่งออกเป็น 5 สี ซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เกี่ยวกับทิศและสุขภาพตามตำราการแพทย์แบบโบราณ นั่นก็คือ

·            สีขาว - ตัวแทนของทิศตะวันตกและปอด (ข้าว, ถั่วงอก, หัวไชเท้า)

·            สีดำ – ตัวแทนของทิศเหนือและไต (เห็ดหอม, ผักกูด, สาหร่าย)

·            สีแดงหรือสีส้ม - ตัวแทนของทิศใต้และหัวใจ (พริก, แครอท)

·            สีเหลือง - ตัวแทนของตอนกลางและระบบลำไส้หรือท้อง (ฟักทอง, ไข่)

·            สีเขียว - ตัวแทนของทิศตะวันออกและตับ (แตงกวา, ผักโขม)

 

จาจังมยอน

               จาจังคือ ซอสที่ทำจากถั่วดำหมัก ทำให้น้ำซอสมีสีดำ และมยอนหมายถึงเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารจานผัดของเกาหลี รสชาติจะหวานๆเค็มๆ ทานกับไข่ต้มและทันมูจิ (ไชเท้าดองเหลือง) เป็นเครื่องเคียง

 

ต็อกบกกี

               ต๊อก คือ ขนมทำจากข้าว บกกี คือ นำอาหารไปผัด ต๊อกบกกี จึงแปลว่า อาหารที่ทำจากแป้งข้าวนำไปผัด ใครได้ชิมรสชาติแล้วจะติดใจกับความหนึบหนับของแป้งต๊อก เส้นแป้งรูปทรงกระบอก ในน้ำซอสสีแดง ใส่แผ่นคล้ายลูกชิ้นปลา กินตอนร้อนๆอร่อยอย่าบอกใครเลยเชียว แป้งรูปทรงกระบอกนั้นเขาเรียกว่า คาเรต๊อก การทำคาเรต๊อก เขาจะใช้ข้าวจ้าว แช่น้ำค้างคืน นำไปบดแล้วนึ่ง หลังจากนั้นก็นวดและตัดแบ่งเป็นรูปทรงกระบอก

 

ซัมกยอบซัล

               ซัมกยอบซัล หรือ หมูสามชั้นย่าง ซึ่งเหมารวมไปถึงเนื้อย่างชนิดอื่นๆด้วย อาทิ เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อติดซี่โครง

 

คิมชี ชีเก

               ซุปกิมจิ มีลักษณะซุปและจัดเสิร์ฟในหม้อร้อน โดยมีส่วนประกอบได้แก่ กิมจิ หัวหอม เต้าหู้ และเนื้อสัตว์ซึ่งอาจจะเป็นเนื้อหมูหรืออาหารทะเล คิมชีจีแกมีรสชาติเผ็ดกลมกล่อม

 

พุลโกกิ

               เนื้อย่างเกาหลี นิยมหมักกับซอสโชยุ น้ำตาลทราย พริกไท น้ำมันงา กระเทียมสับ หอมใหญ่ และลูกแพรขูด

น้ำมันมะกอกชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด

 

               น้ำมันมะกอกถือเป็นทางเลือกที่ดีของคนรักสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันมะกอกนั้นมีอยู่หลายประเภท เราจึงควรเข้าใจประเภทของน้ำมันมะกอกก่อนที่จะนำไปใช้ มิฉะนั้นแทนที่เราจะได้รับประโยชน์จากน้ำมันมะกอกก็อาจจะได้รับโทษแทน

ประเภทของน้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆดังนี้

 

1.      น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin)

น้ำมันมะกอกประเภทนี้เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม ได้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมากมะกอกสดๆ ดังนั้นจึงเป็นน้ำมันมะกอกที่ดีที่สุดในบรรดาน้ำมันมะกอกทุกประเภท และมีราคาสูง ใช้ทานสดๆ แบบผสมเป็นน้ำสลัดหรือทำเป็นซอสพาสต้าได้ แต่ต้องไม่ผ่านความร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และไขมันดีก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดไม่ดีต่อร่างกายแทน

ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการทอด หรือผัด

 

2.      น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin)

เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ได้จากการบีบสดจากลูกมะกอกเหมือนกัน แต่ผลมะกอกจะแก่กว่า มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ดังนั้นยังถือว่าดีต่อสุขภาพเหมือนกัน แค่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย

ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้ทอด หรือผัด

 

3.      น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil)

เป็นน้ำมันที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่เพิ่มเติมคือทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแบบเร็วๆได้ แต่ก็ยังทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม

ควร : นำไปใช้ผัดอาหารแบบเร็วๆ เช่นผัดผัก ข้าวผัด

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้ทอดอาหารนานๆเด็ดขาด

 

4.      น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined olive oil, Light olive oil, Extra light olive oil)

เป็นน้ำมันประเภทข้างบนแบบเพียวๆ โดยที่ไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ ยังถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารดีๆอยู่บ้าง แต่ก็หายไปบ้างจากการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไปโดยผ่านกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้น้ำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส

 

5.      น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil)

มาจากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากกากมะกอกอีกที แล้วนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอกเกรดคุณภาพต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภททอดที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสูงกว่าน้ำมันมะกอกชนิดอื่นๆ เช่นกัน จึงไม่ค่อยเป็นนิยมนัก

ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส